โบท็อกซ์หน้าผากแก้รอยย่นระหว่างคิ้ว เจ็บไหม ใช้กี่ยูนิต
หน้าผากมีริ้วรอย เหี่ยวย่น เกิดตีนกา ผิวหมองคล้ำ ไม่เรียบเนียน ระหว่างคิ้วดูแข็งเกร็งเหมือนคนขมวดคิ้วตลอดเวลา สาเหตุมาจากพฤติกรรมการแสดงออกทางสีหน้าและอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ไม่มั่นใจและกระทบต่อการใช้ชีวิต หากคุณมีปัญหาเหล่านี้และกำลังมองหานวัตกรรมที่ดี ช่วยลดเลือนริ้วรอย การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากเป็นหนึ่งทางเลือกที่ช่วยคุณได้ ด้วยโบท็อกซ์แท้และความชำนาญของแพทย์ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี แก้ปัญหาได้ตรงจุด ผลการรักษาตรงใจ เจ็บน้อย ไร้แผลเป็นและเห็นผลไว หลังฉีดใช้ชีวิตได้ทันที การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจึงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน
การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากมีความเจ็บปวดในระดับที่ทนได้ หากผู้รักษากลัวเจ็บแพทย์จะแปะยาชาให้และปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล แพทย์จะประเมินอย่างละเอียดก่อนทำการฉีด ก่อนฉีดโบท็อกซ์ผู้สนใจควรศึกษาการอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยและเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
โบท็อกซ์หน้าผากคืออะไร
ก่อนทำความรู้จักกับโบท็อกซ์หน้าผาก ควรรู้ก่อนว่าโบท็อกซ์คืออะไร
โบท็อกซ์ คือ การนำสารโบทูลินั่ม เอ (Botulinum Toxin Type A เรียกย่อ ๆ ว่า Botox) ซึ่งผลิตจาก Clostricdium Botulinum เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีลักษณะใสฉีดบริเวณที่ต้องการเพื่อกระชับผิว ลดริ้วรอยและผิวเรียบเนียน
โบท็อกหน้าผาก คือ การฉีดโบท็อกซ์เหนือคิ้วหรือบริเวณหน้าผาก โดยโบท็อกซ์ออกฤทธิ์กับระบบประสาทโดยตรง เข้าไปรบกวนการทำงานของเซลล์ประสาท ทำให้กล้ามเนื้อลดการทำงานชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งคลายตัว ผิวตึง กระชับและเรียบเนียนขึ้น เห็นผลทันทีใน 3 วันและเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 14 วัน
โบท็อกซ์ไม่ใช่การผ่าตัดจึงไม่ใช่หัตถการที่เกิดผลลัพธ์ถาวร ดังนั้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นานควรฉีดซ้ำหลังผ่านไป 3 เดือนและไม่ควรเว้นระยะห่างเกิน 6 เดือน
โบท็อกซ์หน้าผากราคาเท่าไหร่
ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ที่นำมาใช้ปัญหาของแต่ละบุคคล ความต้องการของผู้รักษาและวิธีการตั้งราคาของแต่ละคลินิก โดยคลินิกที่ดีจะมีการตั้งราคาที่มีมาตรฐาน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อุปกรณ์ที่ทันสมัยและยี่ห้อของโบท็อกซ์ ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมาสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด โดยแพทย์จะวิเคราะห์แต่ละเคสอย่างละเอียดเพื่อคำนวนราคา คนไข้สามารถแจ้งงบที่มีเพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาตามงบได้ ควรระมัดระวังคลินิกที่ตั้งราคาถูก เพราะอาจใช้โบท็อกซ์ปลอม โฆษณาเกินจริงหรือจงใจให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนซึ่งเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค
โบท็อกซ์หน้าผากใช้กี่ยูนิต
ปริมาณของโบท็อกซ์ที่รักษาส่วนนี้อยู่ที่ 20-30 ยูนิต ทั้งนี้ปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลและความต้องการของคนไข้ โดยแพทย์จะประเมินเพื่อคำนวณปริมาณที่เหมาะสม อธิบายให้คนไข้ทราบอย่างละเอียดก่อนทำการรักษา
โบท็อกซ์ หน้าผากเห็นผลทันทีหลังฉีดไหม
การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะไม่เห็นผลทันทีหลังฉีด แต่จะเริ่มเห็นผลตามระยะเวลา ดังนี้
- หลังฉีด 3 – 5 วัน ผิวจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลง เต่งตึง กระชับขึ้นและเรียบเนียน
- หลังฉีด 14 วัน เห็นผลการรักษาที่ชัดเจน เต็มรูปแบบ อยู่ได้นาน 3-6 เดือนและควรไปฉีดซ้ำเมื่อครบ 3 เดือน
โบท็อกซ์ หน้าผากอันตรายไหม
หน้าผากเป็นจุดที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทจำนวนมาก อยู่ใกล้ดวงตา หากรักษากับแพทย์ที่ไม่ชำนาญ คลินิกที่ไม่มีมาตรฐานหรือใช้บริการหมอปลอมอาจทำให้ตาบอดหรือเสียชีวิตได้ การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากไม่อันตรายเลยถ้าเลือกใช้คลินิกที่ดี ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข แพทย์มีความชำนาญสูง ใช้โบท็อกซ์แท้และสามารถตรวจสอบทุกอย่างได้
ข้อดีข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก
ข้อดี
การฉีดโบท็อกซ์ไม่ใช่การผ่าตัดใช้เวลาน้อย สะดวก ปลอดภัยและเห็นผลไวใน 3-5 วัน
ข้อเสีย
ไม่ใช่การรักษาโดยการผ่าตัด ดังนั้นผลการรักษาอยู่ได้แค่ 3-6 เดือนและควรฉีดซ้ำเมื่อผ่านไป 3 เดือน นอกจากนี้ถ้าฉีดโบท็อกซ์หน้าผากกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญ อาจเกิดผลเสียตามมาคือ ตาตก คิ้วตกหรือคิ้วไม่เท่ากัน
ข้อห้ามการฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก
โบท็อกซ์เป็นหัตถการที่เจ็บปวดน้อยก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะฉีดโบท็อกซ์หน้าผากได้ โดยบุคคลที่ไม่ควรรักษาด้วยวิธีนี้คือ
- ผู้ที่มีภาวะผิดปกติของกล้ามเนื้อและระบบประสาท เพราะการฉีดโบท็อกซ์เกี่ยวข้องกับ ระบบนี้โดยตรง
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- บุคคลที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพอง เป็นต้น
วิธีดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์หน้าผากแบ่งตามระยะเวลาดังนี้
หลังฉีดภายใน 24 ชั่วโมง
- หลังฉีด ขยับกล้ามเนื้อหน้าผากทันทีโดยการยักคิ้วขึ้นลง 10 นาทีเพื่อให้ยากระจายทั่วหน้าผาก
- ห้ามกดและนวดบริเวณที่ฉีด
- งดนอนราบ นอนก้มหน้าหรือหน้าอยู่ต่ำกว่าหัวใจประมาณ 4 ชั่วโมงเพื่อป้องกันโบท็อกซ์เคลื่อนที่ไปบริเวณอื่น เพราะหลังฉีด เลือดจะไหวเวียนที่หน้ามากกว่าปกติ
- งดออกกำลังกายและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
ภายใน 14 วัน หลังฉีด
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น เลเซอร์ ซาวน่า น้ำอุ่นและการรับประทานอาหารประเภทชาบูและปิ้งย่าง เพราะไอร้อนกระทบผิวหน้าโดยตรง
- งดทานอาหารรสจัด ทั้งเผ็ดและเค็มรวมถึงอาหารหมักดองและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่
- พบแพทย์ตามนัดเสมอ หากมีอาการผิดปกติรีบพบแพทย์ทันที (ควรสังเกตอาการผิดปกติให้พบภายใน 72 ชั่วโมงเพื่อการรักษาที่ทันท่วงที)
