ฟิลเลอร์หน้าผาก
ฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เติมเต็มริ้วรอย เพิ่มความโหนกนูน

หน้าผากรูปทรงสวยงาม ไร้ริ้วรอยและโหวงเฮ้งดี นอกจากเพิ่มความสวยและมั่นใจ ยังช่วยเรื่องโชคลาภและวาสนาได้อีกด้วย ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นที่นิยม เพราะช่วยแก้ปัญหาเรื่องหน้าผากแบน บุ๋ม ยุบ ทรงไม่สวย มีร่องลึกและริ้วรอยตามวัย นอกจากนี้ยังช่วยปรับทรงให้สวยงามตามโหงวเฮ้ง ทุกขั้นตอนใช้เวลาไม่นาน เห็นผลทันทีและไม่มีบาดแผล

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) หน้าผากคืออะไร?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ การฉีดเสริมหน้าผากให้ได้รูปทรงสวยด้วยสาร Hyaluronoc Acid (HA) เพื่อช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยที่หน้าผาก ผู้ที่มีปัญหาหน้าผากบุ๋ม ยุบ เป็นคลื่น แบนหรือต้องการปรับรูปทรงให้สวยงามตามต้องการ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นการฉีดที่แพทย์ต้องใช้ความระมัดระวังและชำนาญมากเป็นพิเศษ เนื่องจากหน้าผากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเชื่อมกับลูกตา ถ้าฉีดไม่ถูกต้องอาจทำร้ายเนื้อเยื่อ ฟิลเลอร์เป็นก้อน ติดเชื้อและเกิดการอุดตันในเส้นเลือดจนทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงลูกตาได้และทำให้ตาบอดในที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากราคาเท่าไหร่ ควรฉีดกี่ CC

ราคาและปริมาณของฟิลเลอร์ที่นำมาฉีด ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ ความต้องการของผู้รักษาและการพิจารณาของแพทย์ ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมากกว่าจุดอื่น ๆ ซึ่งช่วยแก้ปัญหา 2 อย่างคือ

  1. แก้ไขปัญหาร่องหน้าผาก
    ฉีดฟิลเลอร์ 1-2 CC บริเวณเหนือคิ้ว ช่วยให้ร่องตื้นขึ้นและหน้าผากเรียบสวย
  2. ต้องการเพิ่มความโหนกนูน
    ใช้ฟิลเลอร์ที่ 3-10 cc เพื่อแก้ปัญหาหน้าผากแบนและบุบ ทั้งนี้ ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์เกิน 5 CC/ครั้งเพราะจะเกิดอันตรายได้ แพทย์จะค่อยๆ ทยอยฉีดเพื่อความปลอดภัย

ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดที่หน้าผาก

ผู้ที่ต้องการแก้ริ้วรอยที่หน้าผาก มีปัญหาหน้าผากแบน บุ๋มและบุบหรือต้องการปรับทรงหน้าผากให้สวยงามตามโหวงเฮ้งที่ต้องการและเสริมความมั่นใจ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  1. ศึกษาข้อมูลของคลินิกแต่ละที่อย่างละเอียด เช็กประวัติแพทย์ผู้รักษา ดูริวิวประกอบการตัดสินใจและเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้และมีมาตรฐาน
  2. ศึกษาวิธีการดูฟิลเลอร์แท้และปลอม
  3. ปรึกษาแพทย์และให้แพทย์ประเมินการฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด
  4. งดยาแอสไพริน NSAIDs วิตามินและยาทาผลัดเซลล์ผิว
  5. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง

ขั้นตอนการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  1. หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อาจมีอาการบวมแดงจากเข็ม ซึ่งเป็นอาการปกติที่หายใน 3 วัน โดยแพทย์จะจ่ายยาลดบวมให้
  2. หลีกเลี่ยงอากาศร้อน อยู่ในพื้นที่อากาศเย็น
  3. ห้ามกดหรือนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
  4. งดเลเซอร์ผิวหน้าเป็นเวลา 1 เดือน
  5. ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตรต่อวันเพื่อเพิ่มการกักเก็บน้ำใต้ชั้นผิว

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้

  1. อาการบวม
    เป็นอาการบวมที่เกิดจากเข็ม ซึ่งเป็นอาการปกติและหายใน 3 วัน
  2. หน้าผากนูนเกินไป
    หลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ทำให้หน้าผากนูนเกินไป เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้และแก้ไขได้ง่ายโดยการฉีดยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase) สารนี้จะเข้าไปลดการกักเก็บน้ำ ทำลายการยึดเกาะของเนื้อฟิลเลอร์ ทำให้ผิวกลับมาเรียบเหมือนเดิม
  3. ผิวเป็นก้อน คลื่น มีรอยยับและไม่เรียบเนียน
    อาการนี้เกิดจากการทำหัตถการกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญ ใช้เทคนิคและการฉีดที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เนื้อฟิลเลอร์ถูกกล้ามเนื้อดึงมากองรวมกัน ส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงดังกล่าว

คำถามที่พบบ่อย

ฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากเจ็บไหม

มีอาการเจ็บเล็กน้อย เนื่องจากใช้เข็มฉีดยาในการทำหัตถการ แต่เจ็บไม่นาน ใช้เวลาในการน้อย เห็นผลทันที อาจมีอาการบวมจากเข็มซึ่งหายได้เองใน 3 วัน

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ที่ไหนดี

  • คลินิกมีมาตรฐาน สะอาด ได้รับการรับรอง มีผู้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่องและมีรีวิวจากผู้รักษาจริง
  • แพทย์มีความชำนาญ มีประสบการณ์และใบอนุญาตในการทำหัตถการ โดยสามารถเช็กแพทย์และใบอนุญาตได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา

ฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากอยู่ได้นานแค่ไหน

ฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ถ้าหากมากที่สุดจะอยู่ได้นาน 1 ปี

ฟิลเลอร์หน้าผากต่างจากฉีดไขมันหน้าผากอย่างไร

ทั้ง 2 วิธีคือการทำหัตถการที่หน้าผาก แต่แตกต่างกันทั้งวิธีการ ระยะเวลาและผลลัพธ์การรักษา นั่นคือ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
คือ การฉีดฟิลเลอร์เติมหน้าผาก เพื่อให้หน้าผากสวยได้รูปตามต้องการ ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาน้อย ผลลัพธ์ชัดเจนและเห็นผลทันที อาจมีอาการบวมซึ่งหายได้ใน 3 วันและหายสนิทใน 14 วัน
การฉีดไขมันหน้าผาก
คือ การดูดไขมันของตัวเองมาเติมเต็มที่หน้าผาก ซึ่งเป็นวิธีที่ลดความเสี่ยงจากอาการแพ้แต่มีกระบวนการเพิ่มเข้ามาคือการดูดไขมันออกมาผ่านกระบวนการปั่นแยกของเหลว เกิดรอยแผลและไม่รับประกันว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี 100% สำหรับผู้รักษาที่มีอาการกระดูกยุบ วิธีนี้ไม่เหมาะสมเพราะเนื้อไขมันเป็นเนื้อนิ่ม ไม่สามารถพยุงผิวหน้าได้ดีเท่ากระดูก การเติมฟิลเลอร์เป็นวิธีการที่ดีกว่า

Scroll to Top